1. เค้กลาวา รสช็อกโกแลต
ส่วนผสม
- แป้งอเนกประสงค์ 200 กรัม
- ผงโกโก้ 100 กรัม
- น้ำตาลทราย 50 กรัม
- ผงฟู ½ ช้อนชา
- น้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร
- น้ำมันพืช 80 มิลลิลิตร
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- วิปปิ้งครีม 500 มิลลิลิตร
- ดาร์กช็อกโกแลต 250 กรัม
- นมข้นหวาน 50 มิลลิลิตร
- ผงโกโก้ (สำหรับตกแต่ง) ตามชอบ
วิธีทำ
- วอร์มเตาอบ 250 องศาเซลเซียส ไฟบน-ล่าง 10 นาที จากนั้นปรับไฟเป็น 180 องศาเซลเซียส
- เตรียมพิมพ์เค้กขนาด 7 นิ้ว มีแกนตรงกลาง ทาเนยละลายให้ทั่วพิมพ์ ใส่แป้งลงไป จากนั้น เคาะแป้งออก เพื่อให้เอาเค้กออกจากพิมพ์ง่าย และไม่ติดพิมพ์หลังจากอบเสร็จ
- ร่อนวัตถุดิบของแห้ง คือ แป้งอเนกประสงค์ ผงโกโก้ และผงฟู ลงไปในชามผสม ใส่น้ำตาลทราย น้ำเปล่า น้ำมันพืช และไข่ไก่ คนให้เข้ากันด้วยไม่พาย จากนั้นเทใส่พิมพ์ อบด้วยอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ไฟบน-ล่าง 30 นาที
เคล็ดลับ :ใช้ไม้พายคนแทนตะกร้อมือ เพื่อไม่ให้ฟองอากาศในเค้กมากเกินไปค่ะ เนื่องจากสูตรนี้เราไม่อยากให้เนื้อเค้กฟูมาก - เช็คความสุก โดยใช้ไม้เสียบลูกชิ้นทิ่มลงไปตรงกลางเค้ก ถ้าไม่มีเศษเค้ก หรือของเหลวติดออกมา แสดงว่าเค้กสุก
- ทำช็อกโกแลตกานาช โดยนำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทวิปปิ้งครีมลงไป ตามด้วย นมข้นหวาน คนให้เข้ากัน และต้มจนเดือด
- จากนั้น นำมาเทใส่ชามดาร์กช็อกโกแลต คนให้ดาร์กช็อกโกแลตละลาย และเข้ากันดีเป็นซอส พักไว้จนเย็น
- นำเค้กช็อกโกแลตที่ทำไว้ใส่จาน เทช็อกโกแลตกานาชลงไปตรงกลางจนเต็ม โรยผงโกโก้ลงไปจนทั่ว พร้อมเสิร์ฟ
2. ทีรามิสุ (แบบกลม)
ส่วนผสม
- กาแฟเอสเปรสโซ่ 300 มิลลิลิตร (ใช้กาแฟปกติแทนได้)
- ชีสมัสคาร์โปน 250 กรัม
- น้ำตาลทราย 85 กรัม
- วิปปิ้งครีม 300 มิลลิลิตร
- กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
- ผงโกโก้ ตามชอบ
- เลดี้ฟิงเกอร์บิสกิต 22 ชิ้น
อุปกรณ์
- แม่พิมพ์ทรงกลม ขนาด 8 นิ้ว
- เครื่องตีแป้ง
- ชามผสม
วิธีทำ
- เตรียมชามผสม ใส่กาแฟเอสเปรสโซ่ลงไป เตรียมไว้
- ทำครีม โดยเตรียมชามผสม ใส่ชีสมัสคาร์โปน ตามด้วย วิปปิ้งครีม เล็กน้อย ใช้ตะกร้อมือตีให้ชีสมัสคาร์โปนขึ้นฟู (ถ้าแห้งเกินไป ให้เติมวิปปิ้งครีมลงไป ตามสมควร)
- เตรียมชามผสมใบใหม่ ใส่วิปปิ้งครีม น้ำตาลทราย กลิ่นวานิลลา แล้วใช้เครื่องตี ตีวิปปิ้งครีมให้ขึ้นฟู จนวิปปิ้งครีมตั้งยอดอ่อน
- นำวิปปิ้งครีมเทใส่รวมกับเนื้อครีมมัสคาร์โปน ตะล่อมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
- ประกอบเค้กทีรามิสุ โดยเตรียมแม่พิมพ์ทรงกลม นำเลดี้ฟิงเกอร์บิสกิต จุ่มกับกาแฟเอสเปรสโซ่แค่พอเปียก (ไม่ต้องชุ่ม) วางเรียงลงไปให้เต็ม เป็นฐานเค้ก (ถ้าบิสกิตแต่ละชิ้นยาวเกินไป ให้ตัดสั้นลง จนวางเรียงเป็นวงกลมได้)
- ตักครีมมัสคาร์โปนลงไป ครึ่งหนึ่ง แล้วเกลี่ยให้เรียบ เป็นชั้นที่ 2
- วางเลดี้ฟิงเกอร์ให้เต็มเป็นชั้นที่ 3 ตามด้วย ครีมมัสคาร์โปน เป็นชั้นที่ 4 แล้วเกลี่ยให้เรียบ
- นำไปแช่ในตู้เย็น เป็นเวลา 3 ชั่วโมง ให้เซ็ตตัว เสร็จแล้ว นำออกจากแม่พิมพ์ โรยผงโกโก้ลงไปด้านบนให้เต็ม จนสวยงาม แล้วตัดรับประทานเป็นชิ้น ๆ ตามชอบ เป็นอันเสร็จ
3. เค้กหม้อหุงข้าว รสโกโก้
ส่วนผสมส่วนที่1
- แป้งเค้ก 1/2 ถ้วยตวง
- ผงโกโก้ 5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
- ไข่แดง 3 ฟอง(เบอร์2)
- นมจืด 1/4 ถ้วยตวง
- น้ำมะนาวสด 1 ช้อนชา
ส่วนผสมส่วนที่ 2
- ไข่ขาว 3 ฟอง (เบอร์2)
- น้ำมะนาว 1/4 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมส่วนที่ 3 สำหรับทำหน้านิ่ม
- น้ำเปล่า 100 มิลลิลิตร
- ผงวุ้น 1/2 ช้อนชา
- นมจืด 200 มิลลิลิตร (แบ่งครึ่ง100มล.ผสมแป้งข้าวโพด)
- น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
- ผงโกโก้ 6 ช้อนโต๊ะ (ไม่ชอบให้มีรสขมแนะนำให้ลด)
- แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
- เนยเค็ม 60 กรัม (ใช้เนยจืดได้ ไม่มีไม่ใช้ก็ได้)
วิธีทำ
- เตรียมทำส่วนผสมส่วนที่ 1 เริ่มจากเตรียมถ้วยผสม ใส่นมจืด น้ำมะนาว คนให้เข้ากัน แล้วพักไว้
- เตรียมชามผสมใบใหญ่ ตอกไข่ไก่ แล้วแยกเอาแต่ไข่แดง ใส่ลงไป 3 ฟอง เทไข่ขาวแยกเตรียมไว้อีกชามหนึ่ง (เป็นส่วนผสมสวนที่ 2) จากนั้น ใส่น้ำตาลทราย เกลือ กลิ่นวานิลลา น้ำมันพืช คนให้เข้ากัน
- ใส่นมจืดผสมน้ำมะนาวไว้ลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้น เทแป้งเค้ก เบกกิ้งโซดา และผงโกโก้ ในกระชอน คนให้เข้ากัน แล้วร่อนลงไป พอร่อนเสร็จแล้ว ให้ใช้ตะกร้อมือ คนและตะล่อมไปในทิศทางเดียว จนกว่าส่วนผสมทั้งหมดจะข้นเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน เสร็จแล้ว ให้ใช้ผ้าขาวบางหรือพลาสติกแรปปิดปากชาม พักไว้
- เตรียมทำส่วนผสมส่วนที่ 2 เริ่มจากนำชามใส่ไข่ขาวมา ผสมกับน้ำมะนาว เสร็จแล้วใช้เครื่องตี ตีที่ความเร็วระดับปานกลาง ให้ไข่ขาวขึ้นฟองหยาบ ๆ จากนั้น ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปเรื่อย ๆ จนหมด และตีต่อไปจนกว่าจะขึ้นฟูจนเป็นฟองละเอียด พอฟองละเอียดดีแล้ว ให้ปรับความเร็วของเครื่องตี ไปที่ความเร็วสูงสุด ตีให้ไข่ขาวกลายเป็นเมอแรงค์ ตั้งยอดอ่อน จนติดตะกร้อมือ
- ค่อย ๆ ตักแบ่งเมอแรงค์ ไปผสมกับแป้งเค้กโกโก้ทื่ทำไว้ ตะล่อมเบา ๆ ให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้น ทาเนยให้ทั่วหม้อหุงข้าว แล้วเทแป้งเค้กใส่ลงไป เคาะกับพื้นโต๊ะเล็กน้อย เพื่อไล่ฟองอากาศออก เสร็จแล้ว ปิดฝา กดหุงข้าวปกติ หากเครื่องขึ้นสุกเรียบร้อยแล้ว แต่เช็กด้านใน เนื้อเค้กยังไม่สุกดี ให้กดหุงข้าวอีกรอบหนึ่ง จนกว่าจะได้เนื้อเค้กที่สุกกำลังดี วิธีการเช็ก ให้ใช้ไม้จิ้มลงไปในเนื้อเค้ก หากไม่มีของเหลวติดขึ้นมา แสดงว่า เค้กสุกดีแล้ว
- เมื่อเค้กสุกดีแล้ว ให้เอาออกจากหม้อหุงข้าว พักไว้ให้เย็นตัวลง จากนั้น ให้ตัดแบ่งเค้กออกเป็น 2 ส่วน เตรียมไว้
- ทำเนื้อครีมหน้านิ่ม ในส่วนผสมส่วนที่ 3 โดยตั้งหม้อต้ม ใส่น้ำเปล่าลงไป ตามด้วยผงวุ้น พักให้ผงวุ้นจมลงสัก 5 นาที แล้วใส่นมจืด น้ำตาลทราย ผงโกโก้ ตามลงไป เปิดไฟกลางค่อนไฟอ่อน คนให้ส่วนผสมเข้ากัน และต้มต่อไปให้ส่วนผสมพอเดือดปุด ๆ
- ผสมนมจืดกับแป้งข้าวโพด คนให้เข้ากัน แล้วใส่ลงไปในหม้อ จากนั้น ใช้ตะกร้อมือ คนส่วนผสมให้ข้นเหนียว พอข้นเหนียวดีแล้ว ให้ปิดไฟ แล้วใส่เนยเค็มลงไป คนให้เนยละลายเข้ากัน จนกว่าจะเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
- ตักเนื้อครีมหน้านิ่มส่วนหนึ่ง ลงไปบนเนื้อเค้กที่หั่นไว้ เกลี่ยให้เรียบเสมอกัน จากนั้น นำเนื้อเค้กส่วนที่เหลือมาประกบ ราดเนื้อครีมหน้านิ่มที่เหลือลงไปให้ทั่วเค้ก ปาดให้เรียบเสมอกัน แล้วนำไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 1 ชั่วโมง พอเนื้อครีมหน้านิ่มเซ็ตตัวดีแล้ว ตกแต่งโดยโรยผงโกโก้ด้านบน เป็นอันเสร็จ
4. เค้กนึ่ง สูตรคัพเค้กใบเตย
ส่วนผสม
- น้ำใบเตย 30 มิลลิลิตร (ใบเตยปั่นกับน้ำมะพร้าว)
- ไข่แดง 3 ฟอง
- น้ำมันรำข้าว 40 มิลลิลิตร
- เกลือป่น ¼ ช้อนชา
- กะทิ 60 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 160 กรัม
- แป้งเค้ก 110 กรัม
- ไข่ขาว 3 ฟอง
วิธีทำ
- นำใบเตยมาปั่นกับน้ำมะพร้าว ปั่นจนละเอียด แล้วกรองเอาแต่น้ำประมาณ 2-3 รอบ จนน้ำใบเตยใส
- แยกไข่แดง และไข่ขาว ผสมไข่แดง น้ำมันรำข้าว เกลือป่น และกะทิ คนให้เข้ากัน เติมน้ำใบเตยลงไป ผสมคนให้เข้ากัน ร่อนแป้งเค้กลงไป คนจนแป้งละลายไม่เป็นเม็ด
- ตีไข่ขาวจนขึ้นฟู แบ่งน้ำตาลใส่ลงไป ตีจนเป็นเนื้อครีม นำมาผสมกับแป้งตีด้วยสปีดต่ำประมาณ 1 นาที หรือจนเนียน แล้วค่อยปรับเป็นสปีดสูง ตีต่อไปจนกระทั่งไข่ขาวเป็นเนื้อครีม
- ตักส่วนผสมแป้งใส่พิมพ์ นำไปนึ่งหลังน้ำเดือด ใช้ไฟปานกลางนาน 25-30 นาที หรือจนขนมสุก
- เมื่อสุกแล้วนำจัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
5. ชีสเค้ก (ไม่ใช้เตาอบ)
ส่วนผสมชีสเค้ก
- บิสกิตบด 100 กรัม
- เนยจืดละลาย 25 กรัม
- ครีมชีส 115 กรัม
- น้ำตาลป่น 40 กรัม
- กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
- ครีมข้น 110 กรัม
- เจลาติน 5 กรัม
- น้ำอุ่น 10 กรัม
- แยมสตรอเบอร์รี่ 1 กระป๋อง
- วิปปิ้งครีม
วิธีทำชีสเค้ก
- ใช้ไม้นวดหรือเครื่องปั่น บดบิสกิตให้ละเอียด แล้วใส่เนยละลายลงไป คนผสมให้เข้ากัน
- ตักบิสกิตบดใส่พิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว แล้วกดให้แน่น เพื่อทำเป็นฐานเค้ก
- เตรียมชามผสม ใส่ครีมชีสลงไป แล้วใช้เครื่องตี หรือ เครื่องผสมอาหาร ตีครีมชีสกระจายตัว ไม่ติดกันเป็นก้อน แล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีด้วยสปีดกลาง ผสมให้เข้ากัน จนกว่าครีมชีสจะกลายเป็นเนื้อครีมเนียนละเอียด
- ใส่ครีมข้นลงไป ตีให้เข้ากันกับครีมชีส จากนั้น นำเจลาตินผสมกับน้ำอุ่น คนให้เจลาตินละลาย แล้วใส่ลงไปในชามผสม ตามด้วย กลิ่นวานิลลา ตีทุกอย่างให้เข้ากันดี
- พอทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ให้ตักใส่ลงพิมพ์เค้ก เกลี่ยให้ทั่ว จนหน้าครีมชีสเนียนละเอียดดี แล้วเคาะกับพื้นโต๊ะ เพื่อไล่ฟองอากาศออก นำไปแช่ในตู้เย็น 3 – 4 ชั่วโมง เพื่อให้ครีมชีสเซ็ตตัวดี
- พอครบเวลา ให้ใช้มีดแซะแป้งเค้กโดยรอบ แล้วยกตัวชีสเค้กออกจากพิมพ์เค้ก ตักแยมสตรอว์เบอร์รี่ลงไปด้านบนให้สวยงาม ตามชอบ เป็นอันเสร็จ
6. เค้กวุ้น
ส่วนผสม
- น้ำส้มคั้น 1 ลิตร (ใช้น้ำส้มแบบกล่องแทนได้)
- น้ำส้มเข้มข้น 250 มิลลิลิตร
- เกลือหยิบมือ
- น้ำตาล 100 กรัม
- ผงวุ้น 13 กรัม
- สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ตามชอบ
อุปกรณ์
- พิมพ์เค้ก ขนาด 1 ปอนด์
วิธีทำ
- ตั้งหม้อ ใส่น้ำส้มคั้น น้ำส้มเข้มข้น เกลือ ลงไป คนให้เข้ากัน
- ผสมน้ำเปล่ากับผงวุ้น คนให้เข้ากัน เสร็จแล้ว พักให้วุ้นอิ่มตัว 10 นาที แล้วเทใส่หม้อ คนให้เข้ากันอีกรอบ
- นำไปตั้งไฟ ใช้ไฟอ่อนค่อนไฟกลาง คนตลอดเวลาไปเรื่อย ๆ ให้วุ้นละลายจนหมด
- พอวุ้นละลายดีแล้ว ให้ลดเป็นไฟอ่อน ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน เสร็จแล้ว ปิดไฟ ยกลงจากเตา
- เทวุ้นส้ม ใส่แม่พิมพ์เค้ก ระหว่างตักใส่ ให้ค่อย ๆ ตักลงอย่าให้เกิดฟอง จากนั้น พักรอไว้ ให้วุ้นแข็งตัว
- พอวุ้นส้มเซ็ตตัวดีแล้ว ให้เอาเค้กวุ้นออกจากแม่พิมพ์ ตกแต่งด้านบนด้วย สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ให้สวยงาม เป็นอันเสร็จ
7. สปันจ์เค้ก
ส่วนผสม
- แป้งเค้ก 60 กรัม
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- น้ำตาล 55 กรัม
- สาร SP 5 กรัม
- ผงฟู 1/2 ช้อนชา
- นมสดรสจืด 40 กรัม
- สารสกัดกลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
- เนยเค็ม 40 กรัม
วิธีทำ
- เตรียมชามผสมอาหาร ตอกไข่ไก่ 3 ฟอง ลงไป ตามด้วยน้ำตาล 55 กรัม สาร SP 5 กรัม แล้วใช้เครื่องตีแป้ง ตีจนกว่าจะขึ้นฟู และเนื้อเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
- นำกระชอนมา ใส่แป้งเค้ก 60 กรัม ผงฟู 1/2 ช้อนชา แล้วร่อนแป้งลงใส่ชามผสมอาหาร จากนั้น ใช้เครื่องตีแป้ง ตีผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
- ใส่นมสดรสจืด 40 กรัม สารสกัดกลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา ตามลงไป ตีให้เข้ากัน
- นำเนยเค็มไปละลาย พักให้เย็น เสร็จแล้ว เทลงไปผสมให้เข้ากัน จนเนื้อแป้งเรียนเนียน ข้นเป็นเนื้อครีม
- เตรียมพิมพ์เค้กขนาด 1 ปอนด์ รองด้วยกระดาษไขทั้งก้นพิมพ์และขอบรอบ ๆ เทเนื้อแป้งลงไปจนเต็ม จากนั้น เขย่าเล็กน้อย แล้วเคาะเพื่อไล่ฟองอากาศออก ให้ผิวด้านบนของเนื้อแป้งเซ็ตตัว จนเรียบเนียน
- นำไปอบในเตาอบ ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 – 25 นาที
- เมื่อครบเวลา นำออกมาพักให้เย็น ตัดเป็นชิ้น ๆ พร้อมเสิร์ฟ
8. ท๊อฟฟี่เค้ก
ส่วนผสมเนื้อทอฟฟี่เค้ก
- แป้งเค้ก 100 กรัม
- ผงกาแฟ 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงโกโก้ 3 ช้อนโต๊ะ
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- ไข่ไก่ 4 ฟอง
- นมข้นจืด 40 กรัม
- น้ำตาลทราย 80 กรัม
- โอวาเลท 12 กรัม (ใช้SPแทนได้)
- เนยเค็มละลาย 80 กรัม
ส่วนผสมหน้าทอฟฟี่เค้ก
- เนยสดเค็ม 160 กรัม
- นมข้นจืด 120 กรัม
- ผงกาแฟ 2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 140 กรัม
- แบะแซ หรือ น้ำเชื่อมข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ (ใช้น้ำผึ้งแทนได้)
- แป้งเค้ก 2 ช้อนโต๊ะ
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ 200-300 กรัม
อุปกรณ์
- เครื่องตี หรือ เครื่องผสมอาหาร
- ถาดอบ พิมพ์ 4 เหลี่ยม ขนาด 8 x 8 x 2 นิ้ว
วิธีทำเนื้อทอฟฟี่เค้ก
- เตรียมชามผสมของแห้ง ร่อนแป้งเค้ก ผงกาแฟ ผงโกโก้ ผงฟู เกลือ ผ่านกระชอนลงไป คนให้พอเข้ากัน
- เตรียมชามผสมของเหลว ใส่ไข่ไก่ น้ำตาลทราย นมข้นจืด จากนั้น ใส่ส่วนผสมแห้งลงไป
- ปาดโอวาเลทที่ปลายหัวตะกร้อเครื่องตี เสร็จแล้ว ใช้เครื่องตี ตีด้วยสปีดกลางก่อน ให้ส่วนผสมทั้งหมดพอเข้ากัน พอเข้ากันดีแล้ว ให้เร่งเป็นสปีดสูง ตีต่อไปอีก 10 นาที
- ครบเวลา ให้ปาดโอ่ง 1 รอบ จากนั้น ตีต่อด้วยสปีดสูง ระหว่างนี้ ให้ค่อย ๆ เทเนยละลายลงไป พอเทลงไปหมดแล้ว ให้ตีต่อ 3 นาที จนกว่าแป้งเค้กจะเข้ากับเนยดี และ ไม่เป็นไต (วิธีสังเกต ให้ตะล่อมเนื้อเค้กดู ถ้าไม่มีริ้วไขมัน แสดงว่าใช้ได้แล้ว)
- เตรียมถาดอบขนม พิมพ์ 4 เหลี่ยม รองด้วยกระดาษไขให้เรียบร้อย จากนั้น เทแป้งเค้กทอฟฟี่ลงไป เกลี่ยหน้าให้เรียบ และ เคาะกับพื้นโต๊ะ เพื่อไม่ให้หน้าเค้กมีฟองอากาศ เสร็จแล้ว นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 25 – 30 นาที
วิธีทำหน้าทอฟฟี่เค้ก
- ตั้งกระทะ ใส่เนย นมข้นจืด ผงกาแฟ ลงไป จากนั้น เปิดไฟกลางค่อนไฟอ่อน คนให้ทุกอย่างละลายเข้ากัน
- ใส่น้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน เสร็จแล้ว ใส่แบะแซ หรือ น้ำเชื่อมข้าวโพด คนให้ทุกอย่างเข้ากันอีกรอบ
- ใส่ แป้งเค้ก ลงไป คนต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ให้แป้งเค้กติดกันเป็นเม็ด หรือ จนกว่าส่วนผสมจะข้นขึ้น พอส่วนผสมข้นดี และ เดือดปุด ๆ แล้ว ปล่อยให้เดือด 3 นาที
- ครบเวลาแล้ว ปิดไฟ ใส่กลิ่นวานิลลา เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม และ ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไป คนให้เข้ากัน
- พอเข้ากันดีแล้ว ให้เทลงบนหน้าเค้ก เกลี่ยให้เรียบเสมอกัน แล้วนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 – 12 นาที พร้อมกับชามใส่น้ำด้วย เพื่อกันหน้าเค้กแห้ง
- อบเสร็จแล้ว ให้นำออกมาพักให้เย็น หรือ จะนำไปแช่ตู้เย็นก็ได้ แล้วตัดเค้กมารับประทานได้ตามใจชอบ เป็นอันเสร็จ
9. เค้กฟักทอง
ส่วนผสม
- ฟักทองบด 400 กรัม
- งาขาว งาดำ (ตามชอบ)
- ข้าวโอ๊ตบดละเอียด 50 กรัม
- ผงฟู 1/2 ช้อนชา
- ไข่ขาว 2 ฟอง
- ไข่แดง
อุปกรณ์
- ซึ้งนึ่ง
- ถ้วยอลูมิเนียม
- กระดาษฟอยล์
วิธีทำ
- ใช้ช้อนบดฟักทองให้ละเอียด ใส่ไข่แดงผสมให้เข้ากัน ตามด้วย งาขาว งาดำ ข้าวโอ๊ตบดละเอียด
ผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้ว ใส่ผงฟูตามลงไป - นำไข่ขาวแช่เย็นประมาณ 30 นาที หลังจากนั้น นำมาตีให้เนียนขึ้นฟู จากนั้น ผสมกับฟักทองที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน
- เตรียมซึ้ง ตั้งหม้อให้ร้อน นำถ้วยอลูมิเนียมไปนึ่งให้ร้อนก่อน พอสุกแล้ว เนื้อเค้กจะได้ไม่ติดถ้วย
- จากนั้น นำฟักทองที่เตรียมไว้ใส่ถ้วย โรยหน้าให้สวยงามด้วยธัญพืชตามชอบ เสร็จแล้ว นำกระดาษฟอยล์มาห่อเพื่อไม่ให้น้ำหยดใส่เค้ก
- นำเค้กฟักทองนึ่งในซึ้งด้วยไฟกลาง ใช้เวลา 30 นาที จากนั้น ยกออกพักให้เย็น พร้อมเสิร์ฟ
10. เค้กกล้วยหอม
ส่วนผสม
- กล้วยหอมสุกบดละเอียด 1 ½ ถ้วย
- นมสด 4 ช้อนโต๊ะ
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- แป้งสาลีอเนกประสงค์
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
- เนยเค็ม 250 กรัม
- น้ำตาลทรายละเอียด 1 ½ ถ้วย
- ไข่ไก่
อุปกรณ์
- ถ้วยจีบกระดาษ
- พิมพ์มัฟฟิน
วิธีทำ
- เปิดเตาอบเตรียมไว้ที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส
- หั่นกล้วยหอมเป็นชิ้น ๆ แล้วนำไปบดให้ละเอียด จากนั้น
- เตรียมชามผสม ใส่กล้วยหอมบด นมสด กลิ่นวานิลลา ผสมให้เข้ากัน
- ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู และ เบกกิ้งโซดา ผ่านกระชอนลงไป แล้วผสมทุกอย่างให้เข้ากัน จนได้แป้งเนื้อเนียน
- เตรียมชามผสมอีก 1 ใบ ใส่เนยเค็มลงไป แล้วใช้ตะกร้อ หรือ เครื่องตี ตีให้ขึ้นฟูจนเป็นสีขาวนวล จากนั้น ค่อย ๆ ทยอยใส่น้ำตาลทราย และ ไข่ไก่ ลงไป ตีผสมให้เข้ากัน แบ่งใส่สัก 2-3 ครั้ง
- นำส่วนผสมทั้ง 2 ส่วน มาตีผสมให้เข้ากัน แล้วค่อย ๆ ตะล่อมจนเป็นเนื้อเดียวกัน เสร็จแล้ว เอาถ้วยจีบกระดาษ ใส่พิมพ์มัฟฟิน แล้วเทแป้งเค้กลงไป
- นำเข้าเตาอบที่ตั้งอุณหภูมิไว้ ประมาณ 15 – 20 นาที นำออกจากเตา วางพักทิ้งไว้ให้เย็นลง แกะออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ
สำหรับมือใหม่แล้วถือว่าไม่ยากเกินไปเลยใช่ไหมหละ แต่จะง่ายยิ่งขึ้นถ้ามีตัวช่วยที่จะทำให้การทำเค้กง่ายขึ้นไปอีกด้วย เครื่องตีแป้ง ที่สามารถปรับระดับความเร็วได้ถึง 3 ระดับ อีกทั้งยังแถมหัวตะกร้ออีก 3 หัว ใช้งานง่ายต่อให้เป็นมือใหม่ก็ใช้งานได้ มือโปรก็ใช้งานดี โดยอ่านรายละเอียดเครื่องตีแป้งได้ที่ https://www.sgethai.com/stand-mixer/