วิธีทำให้เนื้อเนียนนุ่มละเอียดน่าทาน
สังขยา คือ คัสตาร์ไข่ แบบไทย ทำจาก ไข่ไก่ น้ำตาล หัวกะทิ เกลือ ผสมจนเข้ากัน แล้วนำไปนึ่งจนสุก ทำให้ได้เนื้อสังขยาเนื้อเนียนนุ่ม หวานละมุน โดยหากใครต้องการทำสังขยา ให้เนื้อเนียนละเอียด ไม่มีฟองอากาศ เมื่อผสมทุกอย่างจนเข้ากันแล้ว ให้นำส่วนผสมไปกรองผ่านกระชอน จะทำให้ได้สังขยา เนื้อเนียนละเอียดมากขึ้น
วิธีทำให้ฟักทองไม่แตกตอนนึ่ง
เนื่องจากเป็นการนึ่งฟักทองทั้งลูก ซึ่งใส่ของเหลวอยู่ด้านใน หากนึ่งฟักทองด้วยความร้อนตลอดเวลา อาจทำให้ฟักทองแตกตอนนึ่งได้ ระหว่างนึ่ง สังขยาฟักทอง ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จึงควรใช้ไฟอ่อนในการนึ่งตลอดเวลา และ ทุก ๆ 15 นาที ต้องเปิดฝาออกพักหนึ่ง เพื่อระบายความร้อนออก ลูกฟักทองจะได้ไม่แตก
วิธีทำสังขยาฟักทอง
ส่วนผสม
- ฟักทองแก่ 1 ลูก
- ไข่ไก่ (เบอร์ 1) 4 ฟอง
- หัวกะทิ 130 มิลลิลิตร
- น้ำตาลมะพร้าว 250 กรัม (ปรับเพิ่มได้ตามชอบ)
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- ใบเตย 5 ใบ
วิธีทำ
- ใช้มีดเจาะตรงกลางฟักทอง ให้เป็นรูปสี่เหลี่ยม จากนั้น ดึงขั้วฟักทองออกมา คว้านเอาเมล็ดฟักทองด้านในออกให้เกลี้ยง เสร็จแล้ว นำไปล้างน้ำให้สะอาด ใช้แปรงขัด เพื่อให้เปลือกฟักทองด้านนอก สะอาดมากขึ้น
- เตรียมชามผสม ตอกไข่ไก่ 3 ฟอง ลงไป ตามด้วย เกลือ น้ำตาลมะพร้าว หัวกะทิ จากนั้น ใช้มือฉีกใบเตยให้แยกออกจากกัน ขยำส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน จนกว่าน้ำตาลมะพร้าวจะละลายเข้ากันดีกับหัวกะทิ
- พอเข้ากันดีแล้ว ให้นำใบเตยออก นำส่วนผสมไปกรองผ่านกระชอน เพื่อให้ได้สังขยา เนื้อเนียนละเอียด
- หาชามมารองฟักทอง เพื่อเตรียมนำเข้าไปนึ่ง นำสังขยามาเทผ่านกระชอนอีกรอบ ลงไปในฟักทอง
- ตั้งซึ้ง ต้มน้ำให้เดือด พอเดือดดีแล้ว ให้ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน นำฟักทองไปนึ่งในซึ้ง เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยทุก ๆ 15 นาที ต้องเปิดฝาออกพักหนึ่ง เพื่อระบายความร้อนออก ลูกฟักทองจะได้ไม่แตก
- พอครบเวลา ให้ยกฟักทองออกมา พักทิ้งไว้ให้เย็น วิธีเช็กสังขยาด้านในว่าสุกหรือยัง ให้ใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มลงไป ถ้าไม่มีน้ำติดขึ้นมา แสดงว่าสุกได้ที่แล้ว พอเย็นลงดีแล้ว ให้ตัดเป็นชิ้น ๆ รับประทานได้ เป็นอันเสร็จ
เพียงเท่านี้เพื่อน ๆ ก็จะได้เมนูแสนอร่อยอย่างสังขยาฟักทองไว้ทานกันที่บ้านแล้ว หรือหากเพื่อน ๆ อยากจะลองขายสังขยาฟักทองเราก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง หากสูตรอาหารในบทความสามารถเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ได้ สุดท้ายอยากใครอยากอ่านบทความเกี่ยวกับสูตรอาหาร หรือ การถนอมอาหารก็ติดตามกันได้เลย รับรองว่าจะมีเทคนิคการถนอมอาหาร และสูตรอาหารต่าง ๆ มาเขียนลงเว็บไซต์เรื่อย ๆ แน่นอน